ถ้าเป็นม้าแข้่งก็เฉือนกันแค่ขนจมูกม้า ถ้าเป็นมวยสูสีถึงขั้นใครต่อยได้อีกครึ่งหมัด
ก็ถึงชนะได้เลย
แต่ก็อย่างว่าล่ะ...ปริมาณจะมากจะน้อย ไม่สำคัญเท่าสาระของเนื้อหานั้น "โดน" คนอ่านแค่ไหน
คนอ่านที่ตอนนี้มีผูู้้้ติดตามถึง ๑๒๘ คน มีบทความ ๔๕ บทความ แต่มีคนคอมเม้นท์รวม ๙ ข้อความ
เอ้า.....ฮา!!!!!!!!!
ฮาพร้อมน้ำตาเล็ด
จำนวนการตอบกลับ (แบบไม่ใช่กระทู้เช็คชื่อ) น้อยเป็นเรื่องผิดปกติอย่างมาก เมื่อเทียบกับจำนวน
เนื้อหา ถึงจะไม่ไร้การโต้ตอบอย่างสิ้นเชิง แต่ความรู้ระดับเกือบจะรับปริญญา ก็น่าจะมีความเห็น
ต่อยอด ออกมาให้ได้ขบได้คิดได้มีข้อมูลออกมาจากนักศึกษาบ้าง
นอยด์ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ.....
หรือเราจะยอมจำนนต่อภาวะการณ์ "เงียบเท่านั้นที่ทำให้กูไม่ต้องมีการบ้าน" ของนักศึกษาดีน๊า
หุหุ...
ด่าบ้าง เสียดสีบ้าง กระตุ้นความอยากกันบ้าง ถือเป็นการสร้างบรรยากาศการเรียนพร้อม ๆ
กับทำตัวผิดศีลไปเรื่อย ๆ แบบนี้หล่ะ
......................................
ไปที่เนื้อหาของสื่อสารบนบรรจุภัณฑ์บ้าง
หลังจากที่โยนไข่กันไปครบทุกชั้นเรียนแล้ว อันนั้นเป็นกิจกรรมที่ทำให้รู้ว่า หน้าที่ของบรรจุภัณฑ์
ที่แท้จริงมันคือ "การปกป้องสินค้า"
เนื้อหาต่อมาเป็นเรื่องของ ฟังก์ชั่นและเทคนิค
ไอ้บรรจุภัณฑ์ที่เอาไว้ปกป้องห่อหุ้มสินค้า (ในชั้นเรียนนี้) จะเน้นกระดาษเป็นวัสดุหลักนะครับ
เทคนิคการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่นำมา "กระทำ" ต่อกระดาษได้ก็มี ๕ เทคนิคดังนี้
ตัด / พับ / ติด / ปรุ / เจาะ
ตัด / พับ / ติด / ปรุ / เจาะ
ตัด / พับ / ติด / ปรุ / เจาะ
ตัด / พับ / ติด / ปรุ / เจาะ
ตัด / พับ / ติด / ปรุ / เจาะ
๕ เทคนิคนั้นเป็นเรื่องของเทคนิคที่ใช้กับ "ตัววัสดุกระดาษ" โดยตรง
เรายังไม่พูดถึงเทคนิคการพิมพ์ ที่ยังมี ... โอ๊ย ..... เยอะ (เช่น ปั้มนูน ปั้มจม ฟลอยด์ เคลือบเงาเคลือบด้าน เป็นต้น)
ส่วนเรื่องของ ฟังก์ชั่น ง่าย ๆ เลยก็คือ การนำเทคนิคต่าง ๆ เหล่านั้นมาสร้างสมดุลกับ
ขนาด กว้าง ยาว หนา สูง ของบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสม
โดยต้องคำนึงถึง "การปกป้องสินค้า" เป็นหลักอยู่เหมือนเดิม
นี่คือภาคทฤษฎีที่้องเรียนรู้ไว้
ภาคปฏิบัติก็คือ....โจทย์ "ไม้ขีดสามก้าน"
บรีฟโจทย์ที่ทุกคนจะได้รับเหมือน ๆ กันก็คือ
๑. สินค้าคือไ้ม้ขีด ๓ ก้าน ซึ่งปกติไม้ขีด ๑ กล่ิองจะบรรจุ ๔๐ ก้าน
๒. หัวไม้ขีดจะมี ๓ สี คือ แดง / เหลือง / ส้ม
๓. กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการขาย คือ คนที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่
๔. แนวคิดการออกแบบที่จะต่อยอดไปสู่การทำโฆษณาคือ "เพราะเรารักคุณ"
(จึงต้องการให้คุณสูบบุหรี่แค่วันละ ๓ มวน)
ฮา.................
แต่ถ้าอยากสูบมากกว่า ๓ มวน ก็เชิญซื้อสินค้ากล่องไม่ขีดบรรจุ ๓ ก้่นของเราได้อีก
เห็นมะ...ทำตัวเป็นคนดีแต่แฝงความเดวิล ๆ ไว้ด้วย
นักศึกษาก็ระดมสมอง ออกแบบกันมาล่ะครับ ถึงมันจะดูง่ายแต่เวลาลงมือทำจริงแล้วไม่ง่าย
อย่างที่เห็นนะครับ
ลองมาดูไอเดียชุดแรกของนักศึกษากัน
(แหะๆๆ มันโหลดรูปตัวอย่างงานมาไม่ได้ เดี๋ยวขอเวลาแก้ไขหน่อยนะครับ)
เอาแค่ ๓ ตัวอย่างพอหอมปากหอมคอ...ก็ได้เห็นกันว่า เว้ยเฮ้ยยยยย!!!! แต่ไม้ขีด ๓ ก้่าน
ถ้าหยิบโจทย์มาบรีฟดีดี ก็สนุกไม่ใช่เล่น
พักฟังเพลงแปร๊บบบบบบบบบบบบบบบ!!!!
เจ้าไม้ขีดไฟก้านน้อยเดียวดาย แอบร๊ากกกกกดอกทานตะวันนนนนนนน
หูย....ใครแต่งฟร่ะ โดนใจคนแก่-มว๊ากกกก!!!!
..........................................................
ความสนุกของการเรียนไม่จบง่าย ๆ เพราะหลังจากได้ไอเดียแรกของงานไปแล้ว
ทุกกลุ่มก็กลับไปทำงานของตัวเองให้ออกมาดูดีเด้งที่สุด
หลักการสร้างแพคเกจโมเดลด้วยกระดาษสีขาว มี ๒ ข้อครับ
๑. สะอาด ไม่มีร่องรอยของขี้ไม้ขี้มือ
๒. ละเอียดและปราณีต รอยตัดกระดาษต้องขาดไม่เป็นขุย เทคนิคต่าง ๆ ที่นำมาใช้ต้อง "เป๊ะ"
คือดูงานโดยรวมแล้ว สะอาดน่าหยิบจับ ซึ่งเป็นคุณสัมบัติสำคัญของบรรจุภัณฑ์ในภาพรวม
อ่า......ถึงตรงนี้มาทบทวนกันนิดนึง
ปกป้องสินค้า / ฟังก์ชั่นและเทคนิค / สะอาดปราณีต
ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้คำว่า "ไอเดียใหม่ๆสดๆซิงๆ" ต้องเป็นรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่
ไม่มีใครคิดมาก่อน.................................สู้เว้ย!!!!!!
ย้อนไปตรงเมื่อกี้นี้ ><
ความสนุกของการเรียนไม่จบง่าย ๆ เพราะคนสอนไม่ต้องประเมินและให้คะแนนเอง
นักศึกษาจะถือบรรจุภัณฑ์ไม้ขีดสามก้านของตัวเองลงไปเพื่อประเมินจากคนที่ไม่รู้
อิโหน่อิเหน่อะไรด้วยเลย
ถือลงไปพร้อม ๔ คำถามสำคัญ
๑. คุณคิดว่าสิ่งที่เห็นนี่เป็นบรรจุภัณฑ์อะไร < ข้อนี้ถ้าดันทะลึ่งมีคนตอบถูก ตกทันที เพราะ
ออกแบบใหม่ยังไงให้คนจับได้ ฮา....
๒. ถ้าผ่านข้อแรกไป ให้ถามต่อว่า แล้วคุณคิดว่าภายในนี้มีอะไร ? < ฮา..ถ้าตอบคำถามแรกไม่ถูก
อย่าหวังคำถามที่สองจะถูกเลย
๓. เมื่อเราได้หลอกล่อคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่สำเร็จแล้ว ถึงค่อย ๆ เฉลยว่ามันคือ
"กล่องไม้ขีดไฟ ๓ ก้านนนนนนนน!!!!"
ช่วงนี้นักศึกษาสามารถเงยหน้ามองฟ้า ทำน้ำตาเอ่อ ๆ กำหมัดแน่น ๆ แล้วพูดกับตัวเองได้ว่า
"ใช่..เราทำสำเร็จแล้ว" >/////<
ส่วนคำถามสุดท้าย หลังจากดีใจไป ๔ วินนาที คือ
๔. ถ้าคะแนนเต็ม ๑๐ การออกแบบนี้จะได้กี่คะแนน
ระหว่างการถามก็ใช้เทคโนโลยีจากสตีฟ จ๊อบส์ ให้เกิดประโยชน์ ด้วยการบันทึกภาพมาเป็นหลักฐานว่า
คำถามต่าง ๆ ทั้งหมดนั้น ไม่ได้บีบบังคับขู่เข็ญให้ใครตอบ
แต่เป็นไปอย่างโปร่งใสบริสุทธิ์ยุติธรรม สมดังเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและการตรวจสอบของ
กกต.จริง ๆ ... ><"
ทั้งหมดนี่คือการเรียนที่ไม่จำเป็นต้องอยู่แค่ในห้องเท่านั้น
นักศึกษาเรียนภาคทฤษฎีไม่กี่ข้อในชั้นเรียน > ลงมือทำเพื่อให้เกิด First Idea > นำกลับไปปรับปรุง
> ประเมินผลโดยผู้อื่น
มันสนุกนะ....
ไม่เชื่อถามนักศึกษาที่เรียนแล้วดูสิ
เอ้าใครมีความเห็นอย่างไรกับการเรียนชิลล์ ๆ สบาย ๆ แบบนี้ ขอเชิญแสดงความเห็นได้เต็มเหนี่ยว ให้ตัวเลขการตอบมันพุ่งปรี๊ดสักกระทู้เถอะน่า
Please ^_____________________^
..................................
ปล.นักศึกษาภาคปกติโครงการพิเศษ ให้ทำการบ้านดังนี้นะครับ
ตามโจทย์ที่ทุกคนจะได้รับเหมือน ๆ กันก็คือ
๑. สินค้าคือไ้ม้ขีด ๓ ก้าน ซึ่งปกติไม้ขีด ๑ กล่ิองจะบรรจุ ๔๐ ก้าน
๒. หัวไม้ขีดจะมี ๓ สี คือ แดง / เหลือง / ส้ม
๓. กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการขาย คือ คนที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่
๔. แนวคิดการออกแบบที่จะต่อยอดไปสู่การทำโฆษณาคือ "เพราะเรารักคุณ"
(จึงต้องการให้คุณสูบบุหรี่แค่วันละ ๓ มวน)
ให้ออกแบบบรรจุภัณฑ์นี้ ด้วยกระดาษอาร์ตการ์ดสีขาวความหนาไม่น้อยกว่า ๒๐๐ แกรม
งานที่ออกมาต้องแปลกใหม่ เพราะเมื่อนำไปประเมินด้วยความเห็นของคนภายนอกแล้ว
ต้องตอบคำถามข้อ ๑ และ ๒ ข้างล่างนี้ไม่ได้
๑. คุณคิดว่าสิ่งที่เห็นนี่เป็นบรรจุภัณฑ์อะไร < ข้อนี้ถ้าดันทะลึ่งมีคนตอบถูก ตกทันที เพราะ
ออกแบบใหม่ยังไงให้คนจับได้ ฮา....
๒. ถ้าผ่านข้อแรกไป ให้ถามต่อว่า แล้วคุณคิดว่าภายในนี้มีอะไร ? < ฮา..ถ้าตอบคำถามแรกไม่ถูก
อย่าหวังคำถามที่สองจะถูกเลย
หลังจากนั้นให้ออกไปทำการประเมิน ดูตัวอย่างการประเมินงานนี้จากลิ้งก์กลุ่มนี้นะครับ
ขอให้มีความสุขทู้กกกกกกกโคนนนนนนนนนนนน
ดร.วรัตต์ อินทสระ
(เช้้าวันอาทิตย์)
กล่องเป็นการออกแบบที่เรียบง่าย แต่สง่างาม ฮ่าๆ
ตอบลบตอนคิดทุกอย่างดูง่ายสวยงามไปหมด แต่ลงมือทำจิง โอ้พระเจ้า มันทำไมยากเย็นอย่างนี้ แต่ก็สนุกสนานท้ายทายดี หากทำไม่ได้อย่างที่คิดก็คงอับอาย แต่หากสำเร็จก็ภูมิใจดี ถึงแม้จะเป็นกล่องไม้ขีดที่ใครว่าธรรมดา แต่ลองมาทำเถอะค่ะ คุณก็จะรู้ว่ามันไม่ธรรมดาอย่างที่เห็น 5555
ตอบลบ